การตกแต่งบ้านแบบศิลปะ หรือคัลเลอร์ฟูล มินิมอล

การตกแต่งบ้าน ส่วนใหญ่ที่นึกถึงจะเป็นการตกแต่งสไตล์มินิมอล แต่ในการที่ได้มีการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลนี้ จะเป็นการที่ทำการตกแต่งให้แสดงถึงความเรียบง่ายและสบายตาซึ่งโทนที่ได้มีการตกแต่งกับสไตล์มินิมอลนั้น จะเป็นโทนที่มีสีอุ่นเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ได้มีการที่ได้นำมาตกแต่งให้เข้ากับสีต่างๆหรือการตกแต่งต่างๆได้อีกด้วย 

 ซึ่งการตกแต่งบ้านแบบ คัลเลอร์ฟูลมินิมอลนี้ก็เป็นการตกแต่งที่ได้มีการผสมผสานกันขึ้นมา จากการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลและศิลปะแบบมองเดรียน ซึ่งทำให้การตกแต่งที่มีความสดใส และเป็นการตกแต่งบ้านที่มีความแปลกใหม่มากๆอีกด้วย ซึ่งในการที่เราจะทำการตกแต่งบ้านสไตล์นี้นั้น จะเป็นการที่เราจะทำการตกแต่งได้ดังนี้

 

  1. การตกแต่งที่มีการตัดสี

การที่เราจะทำการตกแต่งบ้านแบบ คัลเลอร์ฟูล-มินิมอล จะเป็นการที่เราจะทำการตกแต่งด้วยสีต่างๆ เช่นในการที่เราได้มีการ ตกแต่งห้องสีขาว แต่มีการทำการตัดสีด้วยสีแดงจากส่วนใดส่วนหนึ่งของห้อง หรือการที่ได้ตกแต่งห้องด้วยสีดำทั้งหมด และมีการตกแต่งด้านหนึ่งด้วยสีเหลืองทั้งหมด จะทำให้สีเหลืองที่ตกแต่งนั้นเป็นการตกแต่งที่โดเด่นมากๆ 

  1. การตกแต่งทางเดิน

จะเป็นการที่เราจะทำการตกแต่งด้วยสีเดียว และมีสีอื่นๆตัดเล็กน้อย เพื่อที่จะทำให้ทางเดินของเราที่ได้มีการตกแต่ง จะมีความรู้สึกที่เหมือนกับเราได้อยู่ในอีกสถานที่ได้อีกด้วย เช่นในการที่เราได้มีการตกแต่งทางเดินที่มีสีแดงทั้งหมดและมีการตกแต่งด้วยเส้นที่มีสีขาว ซึ่งจะช่วยทำให้ทางเดินของเราดูมีมิติมากขึ้นอีกด้วย

  1. การทำการตกแต่งห้องนั่งเล่น

การทำการตกแต่งห้องนั่งเล่น เราจะสามารถที่จะทำการตกแต่งสีได้อย่างมีความหลากหลาย เพราะพื้นที่ของห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ที่มีความกว้าง และจะสามารถที่เพิ่มการตกแต่งบ้านของเราให้มีมิติขึ้นได้มากอีกด้วย เช่นในการที่เราจะมีการตกแต่งห้องนั่งเล่นโดยที่ใช้ 4สี

  ในการตกแต่งก็สามารถที่จะทำการตกแต่งได้ เช่น การที่เราได้มีการใช้สีเหลืองตกแต่งกำแพงหนึ่งด้าน สีแดงหนึ่งด้าน และสีขาวในการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์และกำแพงทั้งหมด และมีการตัดสีด้วยสีดำ ของเก้าอี้หรือลายเส้นต่างๆที่มีการตกแต่งห้องนั่งเล่น ซึ่งจะให้ความแปลกตาในการตกแต่ง แต่ก็จะมีความสวยงาม และศิลปะในการตกแต่งมากๆอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

วิธีการแก้ไขปัญหาข้าวสวยบูดเร็ว

                ปัญหาข้าวสวยบูดเร็ว เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยประสบกับปัญหาเกี่ยวกับข้าวสวยที่หุงเอาไว้รับประทาน  แต่เพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้นข้าวสวยที่หุงเอาไว้ในหม้อก็กับบูดเน่าเสียแล้ว  ซึ่งถ้าหากอาการแบบนี้เกิดในช่วงหน้าร้อนก็ยังคิดได้ว่าเป็นเพราะอากาศร้อนจัดแต่ถ้าเกิดอาการข้าวสวยบูดเร็วๆนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลอื่นนั้นเราคงจำเป็นต้องหาสาเหตุและหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทางด่วน

         เนื่องจากว่าปกติแล้วข้าวสวยที่มีการหุงพร้อมสำหรับการรับประทานแล้วนั้นจะใช้ระยะเวลาในการเก็บรักษาเอาไว้ได้เกิน 12 ชั่วโมงเลยทีเดียวซึ่งบางที่นั้นหากรักษาดีๆสามารถเก็บไว้ได้ถึง 24 ชั่วโมงดังนั้นการที่เขาสวยของเราบูดเร็วจึงจำเป็นที่จะต้องมีการค้นหาสาเหตุและในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเมื่อเข้าสวยที่หุงเอาไว้บูดเร็วนั่นเอง

         สาเหตุสำคัญของการที่เข้าสวยของเราที่หุงเอาไว้ในหม้อหุงข้าวนั้นบูดเร็วนั่นก็เพราะว่า  เราล้างหม้อหุงข้าวไม่สะอาดซึ่งบางคนนั้นอาจจะปล่อยให้หม้อหุงข้าวนั้นมีข้าวสวยติดหม้อเอาไว้แล้วปล่อยให้เข้าสวยนั้นบูดคาหม้อและหลังจากนำมาล้างทำความสะอาดแล้วก็ยังล้างไม่สะอาดเมื่อเรานำมาหุงข้าวอีกครั้งหนึ่งจึงทำให้ข้าวที่หุงใหม่นั้นบูดเร็วได้นั่นเอง 

       ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องก็คือคุณจะต้องมีการล้างหม้อให้สะอาดโดยใชฟองน้ำสำหรับล้างจาน  ขัดทำความสะอาดภายในหม้อหุงข้าวซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องมีการใช้น้ำยาล้างจานล้างทำความสะอาดหม้อหุงข้าวด้วยโดยเมื่อใช้น้ำยาล้างจานล้างสะอาดหม้อหุงข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณแช่น้ำเปล่าในหม้อหุงข้าวโดยน้ำเปล่านั้นให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะลงไปหลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

        แล้วค่อยกลับมาล้างหม้อหุงข้าวใหม่อีกครั้งหนึ่งหลังจากล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณคว่ำหม้อหุงข้าวให้หม้อหุงข้าวแห้งให้สนิทแล้วค่อยนำมาใช้งานอีกครั้งหนึ่งเพียงเท่านี้เมื่อคุณมีการหุงข้าวใหม่อีกครั้งหนึ่ง ข้าวที่คุณหุงใหม่ก็จะไม่บูดเร็วแล้วอย่างแน่นอน 

     นอกจากนี้ยังมีข้าวสารบางชนิดที่เมื่อนำมาหุงแล้วจะพบปัญหาทำให้ข้าวบูดเร็ว  huaydee    ซึ่งเป็นปัญหาของข้าวสารดังนั้นถ้าหากว่าเรามีการล้างหม้อที่สะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ยังพบปัญหาข้าวสารที่นำมาหุงนั้นยังบูดเร็วลองเปลี่ยนข้าวสารใหม่เป็นยี่ห้ออื่น ซึ่งถ้าหากพบว่าเมื่อเปลี่ยนข้าวสารเป็นยี่ห้ออื่นแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานงั้นก็แสดงว่าข้าวสารที่คุณซื้อมามีปัญหาให้เปลี่ยนข่าวสารในการหุงเพียงเท่านี้ก็ไม่พบปัญหาข้าวสวยบูดเร็วแล้ว

การจัดบ้านที่ทำให้บ้านของเราดูไม่รก

การจัดบ้าน การที่เราได้มีห้องหรือบ้านที่ไม่ได้ใหญ่มากและเราก็ได้มีสิ่งของอยู่มากมายที่ทำให้ห้องของเราดูรก เราก็จะต้องมีการจัดเก็บสิ่งของของเราให้เป็นระเบียบ แต่ในการที่เรามีการเก็บของเราห้องของเราหรือบ้านของเรายังดูรกอยู่ เราก็จะต้องมีการทิ้งของต่างๆของเราออกไปบ้าง

แต่ถ้าเราไม่อยากที่จะมีการทิ้งสิ่งของ หรือได้เป็นของที่มีความสำคัญต่อเรา เราก็จะต้องมีการจัดให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น และถ้าเราไม่รู้ว่าเราควรที่จะมีการจัดห้องอย่างไรดี วิธีในการใช้จัดห้องแห่งนี้ก็จะสามารถทำให้ห้องของเราดูมีความกว้างและดูเป็นระเบียบมากขึ้นได้ โดยที่ใช้วิธีการจัดเหล่านี้

1.การที่เราได้มีการจัดพื้นที่ซักรีดเฉพาะ

จะเป็นการที่เราจะต้องมีการจัดโซนที่เราจะทำการซักผ้าและรีดผ้าเอาไว้โดยเฉพาะ เพราะว่าจะทำให้เราบ้านของเราดูมีความเป็นระเบียบมากขึ้น และเราก็จะสามารถทำการซักหรือรีดผ้าเป็นที่ด้วย และสิ่งของที่เราจะมีการใช้ในการซักผ้าของเราหรือรีดผ้าของเรา เราก็จะสามารถที่ทำที่ชั้นแบบแขวนไว้สำหรับการจัดเก็บของเฉพาะสำหรับการซักและรีดผ้าได้ด้วย นอกจากนี้การที่เรามีการจัดหมวดหมู่ก็ทำให้เราสามารถที่หาสิ่งที่เราจะต้องใช้ได้ง่ายๆอีกด้วย

2.การเพิ่มที่เก็บของ

การที่เราได้มีพื้นที่ที่ใช้ในการเก็บของเต็มแล้ว เราก็จะสามารถทำการเพิ่มชั้นวางและที่แขวนแบบเฉพาะ ที่จะทำให้เราสามารถหาสิ่งของที่เราจำเป็นที่จะต้องมีการใช้ได้อย่างง่าย และเป็นวิธีที่จะทำให้เรามีการจัดเก็บของที่เป็นระเบียบมากขึ้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

 

3.การแบ่งช่องสำหรับจัดเก็บผ้า

เป็นวิธีที่เราจะสามารถทำการจัดเก็บเสื้อผ้า หรือชุดชั้นในได้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งในการที่เราจะมีการทำเราก็ควรที่จะมีการหาสิ่งที่สามารถทำให้เราก็มีการเก็บเป็นช่องๆ หรือการที่เราได้มีการใช้ท่อPVC ก็จะสามารถทำให้เรามีการจัดได้อย่างเป็นระเบียบได้มากขึ้นอีกด้วย

4.การจัดวางรองเท้า

การที่จะทำให้เราสามารถมีการจัดรองเท้าได้อย่างเป็นระเบียบ เราก็จะต้องมีการใช้ชั้นวางรองเท้า หรือหาที่ทำการแขวนรองเท้าไว้กับผนังก็จะสามารถทำให้การวางของรองเท้าของเรามีความเป็นระเบียบได้มากขึ้นมากๆ และดีกว่าการที่เราจะทำการวางรองเท้าไว้ที่พื้นอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวยออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ

การตกแต่งห้องนอนให้ดูกว้าง

การที่เรามีห้องนอนที่เล็กนั้นเราก็จะไม่สามารถที่จะใช้งานในช่วยต่างๆได้ การตกแต่งห้องนอน  และเมื่อมีการใช้งานไปเรื่อยๆจะทำให้เราได้มีวามอึดอัดในการอยู่อาศัย และสามารถที่จะทำการพักผ่อนได้อย่างไม่เติมที่อีกด้วย ซึ่งการตกแต่งห้องโดยที่ทำให้ห้องของเราดูโล่งและกว้างขึ้นจากเดิม

โดยที่ไม่ต้องทำการตกแต่งห้องให้มาก และสามารถทำได้โดยใช้งบในการตกแต่งห้องของเราไม่เยอะอีกด้วยในการตกแต่ง จะมีวิธีที่สามารถทำได้โดยการทำตามวิธีการตกแต่งห้องเหล่านี้

  1. การเลือกสีในการตกแต่งห้อง

การที่เราได้มีการเลือกสีในการตกแต่งห้องต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยอย่างมากในการทำให้ห้องของเราโล่งขึ้น ซึ่งการที่เราเลือกสีผิดก็จะสามารถทำให้ห้องของเราดูแคบลงได้เช่นกัน และสีที่เราควรทำการตกแต่งให้ห้องของเราดูมีความกว้างขึ้นจะเป็นสีที่เป็นสีสว่างๆ หรือโทนสว่างในการตกแต่งห้องของเรา ซึ่งการที่เราได้มีการตกแต่งห้องจะสามารถทำให้เราสามารถดูกว้างขึ้นนจากเดิมมากๆ ซึ่งถ้าเราอยากที่จะทำการใช้สีเข้มในการตกแต่งห้องของเรา เราก็จะต้องมีการจัดห้องให้ดูโล่งมากๆ และทำให้แสงเข้ามามากที่สุดในห้องจะเป็นส่วนที่ช่วยได้ดีในการตกแต่ง

  1. การจัดพื้นที่เป็นส่วนๆ

การที่มีห้องแคบๆเราก็ควรที่จะมีการตกแต่งที่น้อยและควรที่จะจัดการมุมต่างๆทีได้มีการใช้งานอย่างเป็นประจำให้มีการเข้าที่ และสามารถที่จะทำการใช้งานได้ง่าย ซึ่งเราก็ควรที่จะมีมุมสักมุมไว้ใช้งานในสิ่งต่างๆได้มาก เพื่อที่จะทำให้ห้องของเรามีความเป็นระเบียบ และดูกว้างขึ้นจากเดิมและสามารถที่จะทำกิจกรรมต่างๆได้เพิ่มขึ้น

  1. การจัดวางเตียงให้ถูกที่

เตียงเป็นสิ่งที่มีความใหญ่และเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ห้องของเราดูมีพื้นที่ที่เพิ่มมากขึ้นจากการที่วางเตียงให้ถูกที่ เช่นในการที่เราได้มีเตียงเดียว เราควรที่จะทำการจัดวางไว้ที่มุมของห้งเพื่อที่จะทำให้ห้องของเราดูมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมา และจะสามารถที่จะเหลือพื้นที่สำหรับการวางสิ่งของเพิ่มขึ้นมาได้อีกด้วย

  1. การติดกระจก

การที่เราได้มีการติดกระจก จะทำให้ห้องของเราดูมีความกว้างที่เพิ่มมากขึ้นจากเดิม ซึ่งการติดกระจกนั้น จะสามารถที่จะทำการติดได้อย่างหลากหลายที่ในห้องของเรา ซึ่งไม่เพียงแค่ว่ากระจกจะสามารถทำให้ห้องของเราดูกว้างขึ้น แต่จะสามารถทำเป็นที่ตกแต่งของห้องเราได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.    หวยฮานอย บาทละ 1000

การทำห้องเก็บเสียงง่ายๆด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงแค่ใช้สิ่งของใกล้ตัวเท่านั้น

หลายๆคนจะอยากจะมีห้องที่ใช้ในการเก็บเสียงไว้สำหรับการทำสิ่งต่างๆ เช่นการที่เราทำการเล่นเกม ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ หรือทำไว้เพื่อที่จะไม่เป็นการรบกวนคนอื่นๆ และทำให้สิ่งที่เราทำนั้นมีความเป็นส่วนตัวด้วย เพราะว่าเสียงของสิ่งที่เราทำนั้น จะไม่ออกจากห้องของเราเลย ซึ่งในการที่เราจะมีการทำห้องเก็บสัก1ห้องนั้น

หลายๆคนก็อาจจะคิดว่าอาจจะมีขั้นตอนในการทำที่ยุ่งยากมากในการที่จะทำ แต่เราก็สามารถที่จะทำการจะสร้างหรือทำห้องเก็บเสียงได้ง่ายๆด้วยตัวของเราเองได้เลย ซึ่งในการที่เราจะทำห้องเก็บเสียงนั้น เราก็สามารถทำได้มากมายหลายวิธีการดังนี้

  1. การที่เราจะทำการใส่ผ้าม่านหรือผ้าที่มีความหนาไว้กับผนังห้องของเรา

การที่เราทำการติดผ้าม่าน หรือผ้าผ้าหนาๆไว้กับผนังห้องของเรานั้น ก็จะเป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้ห้องของเราเก็บเสียงได้มากขึ้นกว่าเดิมง่ายๆเลย ซึ่งจะเป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีผ้าที่ไม่ได้ใช้งานเยอะ

  1. การที่เราทำการเพิ่มชั้นวางของหรือตู้เก็บหนังสือเข้าไป

ซึ่งในการที่เราทำการเพิ่มตู้หนังสือ หรือชั้นวางของเข้าไปนั้น ก็จะทำให้ผนังห้องของเรามีความหนามากขึ้น จึงทำให้ห้องของเราสามารถที่จะเก็บเสียงได้ดีขึ้นนั้นเอง โดยเราจะต้องทำการจัดตู้หนังสือ หรือชั้นวางของของเราไว้ชิดกับผนังห้องของเรานั้นเอง และถ้าเราได้ทำการวางหนังสือของเราไว้เต็มตู้เลยนั้น ก็จะทำให้ห้องของเราสามารถที่จะเก็บเสียงได้ดีกว่าตู้เปล่าๆอีกด้วย

  1. การที่เราจะทำการวางเบาะไว้ในห้อง

การที่เราทำการวางเบาะไว้นั้น จะเป็นสิ่งป้องกันแรงสั่นสะเทือนของห้องของเราได้เป็นอย่างดีเลย โดยที่เราจะนำเบาะผ้าหรือเบาะโฟมที่เราจะใช้นั้น มาวางรองเครื่องเสียงที่เรามีการใช้ภายในห้องของเรา เพียงแค่นนี้ก็จะทำให้เสียงและแรงสั่นสะเทือนจากภายในห้องของเราลดลงไปมากเลย

  1. การที่เราทำการปิดช่องว่างใต้ประตูของเรา

ช่องว่างที่อยู่ใต้ประตูจะเป็นสิ่งที่ทำให้เสียงจากในห้องของเราออกไปข้างนอกได้ ซึ่งในการที่เราจะทำการปิดช่องใต้ประตูนี้นั้น เราก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะเป็นการที่เราจะซื้อแผ่นปิดใต้ประตูมาใส่ การที่เราติดตั้งแผ่นยาง หรือการที่เราทำการปิดด้วยวิธีต่างๆ ก็จะทำให้เสียงจากในห้องของเราลดลงไปได้เยอะ และยังจะสามารถป้องกันแมลงหรือสิ่งต่างๆเข้ามาภายในห้องของเราได้ด้วย

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    heng868

เครื่องดูดฝุ่นไม่ควรใช้ทำความสะอาดอะไรบ้าง 

 

       เครื่องดูดฝุ่นไม่ควรใช้ทำความสะอาดอะไรบ้าง    ปัจจุบันมนุษย์เราได้มีการผลิตเครื่องอำนวยความสะดวกในการทำความสะอาดมาให้ใช้งานโดยเราไม่จำเป็นต้องใช้ไม้กวาดในการกวาดพื้นทำความสะอาดแล้วเนื่องจากว่าตอนนี้มีการประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่นขึ้นมาซึ่งเจ้าเครื่องดูดฝุ่นนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการทำความสะอาดบ้านให้กับแม่บ้านได้เป็นอย่างดี

และที่สำคัญยังสามารถดูดฝุ่นจากพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสะอาดกว่าการใช้ไม้กวาดกวาดอีกด้วยแต่อย่างไรก็ตามเครื่องดูดฝุ่นนั้นถึงแม้ว่าจะสามารถทำความสะอาดสิ่งต่างๆได้

แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่เราไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นในการช่วยทำความสะอาดซึ่งมันจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นของเรานั้นมีประสิทธิภาพลดน้อยลงหรืออาจจะทำให้พังเร็วได้ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราไม่ใช้เครื่องดูดฝุ่นในการดูดทำความสะอาด

        เส้นผม  หลายคนมองว่ามันไม่สามารถที่จะแยกออกได้เพราะเส้นผมมักจะตกอยู่ที่พื้นซึ่งเราจำเป็นที่จะต้องดูดทำความสะอาดเส้นผมก็จะตามเข้าไปอยู่แล้วกรณีที่ห้ามเอาเครื่องดูดฝุ่นไปดูดทำความสะอาดเส้นผมนั้นหมายถึงเส้นผมที่ตกลงพื้นในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะมากนั่นเองเพราะการที่เราดูดเส้นผมเข้าไปนั้นมันจะเข้าไปทำการพันด้านในเครื่องดูดฝุ่นและทำให้เกิดการอุดตันทำให้เครื่องดูดฝุ่นนั้นทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ

    เศษแก้วเศษกระจก  ไม่ว่าจะเป็นเศษกระจกหรือเศษแก้วนั้นเราก็ไม่ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดสาเหตุนั่นก็เพราะว่าเศษแก้วหรือใส่กระจกต่างๆเหล่านี้มันสามารถไปทำการตัดหรือไปขูดภายในเครื่องดูดฝุ่นทำให้เครื่องดูดฝุ่นได้รับความเสียหายได้และยังดูดเข้าไปอาจจะไปขวางการทำงานของตัวเครื่องดูดฝุ่นทำให้ประสิทธิภาพการดูดฝุ่นนั้นลดลงนั่นเอง

        เศษเหรียญ   ไม่ว่าจะเป็นเหรียญบาทเหรียญ 50 สตางค์หรือแม้แต่เหรียญ 10 เหรียญ 5 บาทก็ไม่ควรที่จะนำเครื่องดูดฝุ่นดูดเข้าไปเพราะตัวเหรียญนั้นมันจะไปขวางทางในการดูดของท่อทำให้สร้างความเสียหายภายในให้กับเครื่องดูดฝุ่นได้

     เศษดินหรือแม้แต่เศษขี้เถ้าส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นว่าคนมักจะเอาเครื่องดูดฝุ่นใน แต่ขี้เถ้าหรือเศษดินเล็กๆน้อยๆที่หล่นภายในบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบ้านไหนมีการไหว้เจ้าที่มักจะมีเศษขี้เถ้าจากธูปร่วงหล่นลงมาและมักจะใช้นำเครื่องดูดฝุ่นนี้ไปดูด

ซึ่งการที่เราดูดเศษที่เข้าไปนั้นมันจะทำให้ขี้ฝุ่นไปเกาะอยู่ด้านในของตัวเครื่องและทำความสะอาดได้ยากทำให้ท่อของเครื่องดูดฝุ่นนั้นเกิดอาการอุดตันได้ดังนั้นทางที่ดีที่สุดไม่ควรนำไปดูดเศษขี้เถ้าหรือเศษดินนั้นเอง

 อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นของต้องห้ามที่ห้ามดูดเลยมากที่สุดก็คือน้ำเพราะนอกจากจะทำให้เครื่องดูดฝุ่นเสียหายแล้วอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าช็อตเราได้เช่นเดียวกัน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    aesexy

การจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้าน สำหรับการเรียกทรัพย์ 

        การจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้าน  หากใครที่มีความเชื่อเกี่ยวกับการจัดฮวงจุ้ยวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านว่าควรจะมีการจัดอย่างไรถึงจะสามารถเรียกพลังงานด้านดีและเรียกทรัพย์เข้าบ้านได้  ซึ่งแน่นอนว่าการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านนั้นนอกจากจะให้พลังงานด้านดีกับคนภายในบ้านแล้วยังทำให้บ้านของเรานั้นสวยงามและดูสะอาดตาได้อีกด้วย

     อย่างที่เรารู้กันดีว่าฮวงจุ้ยที่ดีนั้นก็คือการที่บ้านของเรานั้นจะต้องมีความสะอาด เป็นหลักและไม่ควรที่จะนำเข้าของอะไรมาวางไว้หน้าบ้านให้เกิดการระเบิดละกะรกรุงรัง  ดังนั้นอันดับแรกของการจัดฮวงจุ้ยหน้าบ้านที่ดีก็คือคุณควรที่จะต้องมีการเคลียร์พื้นที่หน้าบ้านของคุณให้ดูโล่งและให้แลดูโปร่งไม่ควรนำของอะไรก็แล้วแต่มาวางเกะกะขวางทางเข้าออกหน้าบ้านซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบ้านเราโปร่งโล่งพนักงานด้านดีหรือทรัพย์ก็จะเข้ามาทางหน้าบ้านได้ง่ายนั่นเอง

 

     นอกจากนี้ประตูรั้วหน้าบ้านของคุณนั้นไม่ควรที่จะปล่อยให้โล่งควรจะมีการทำประตูที่ปิดทึบเพราะประตูนั้นหมายถึงการจัดเก็บพลังงานด้านดีเอาไว้ภายในบ้านไม่ปล่อยให้พลังงานด้านดีไหลออกไปนอกประตูได้ดังนั้นเราสามารถที่จะเลือกประตูบานไม้ที่ปิดทึบหรือประตูเหล็กที่ปิดทึบไม่ควรที่จะปล่อยให้เปิดโล่งมากจนเกินไป

ซึ่งในหลักของความเป็นจริงของการทำประตูหน้าบ้านปิดทึบนั้นก็คือเป็นการป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในบ้านได้นั่นเอง  อย่างไรก็ตามถ้าหากใครที่มองว่าถ้าเกิดประตูรั้วดูปิดทึบมากเกินไปแล้วจะไม่เกิดความสวยงามคุณสามารถที่จะเลือกประตูรั้วที่มีความโปร่งประมาณ 70% ก็ได้แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ไม่ควรเลือกประตูที่มีความโล่งมากจนเกินไป

          สิ่งที่สำคัญตามหลักฮวงจุ้ยอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือบ้านที่ดีนั้นควรจะต้องมีบ้านเลขที่ที่นำมาติดไว้ที่หน้าบ้านให้เห็นตัวเลขอย่างชัดเจนตัวเลขนั้นไม่ควรที่จะเล็กมากเกินไปและที่สำคัญก็ไม่ต้องใหญ่มากจนเกินไปเอาเป็นตัวขนาดที่มีความเหมาะสม

และสามารถทำให้ใครที่ผ่านไปผ่านมามองเห็นเลขที่บ้านของเราได้ที่สำคัญควรจะต้องมีการหมั่นทำความสะอาดบริเวณที่เราติดเลขที่บ้านของเราให้สะอาดอยู่เสมอมันจะเป็นการเพิ่มพลังงานด้านดีหรือเป็นการเพิ่มฮวงจุ้ยที่ดีให้กับบ้านของเราได้นั่นเอง 

      นอกจากนี้หากใครที่ชอบปลูกต้นไม้เพื่อให้บ้านร่มรื่น ควรหลีกเลี่ยงการปลูกต้นไม้ขวางประตูทางเข้าหน้าบ้าน เพราะจะผิดตามหลักฮวงจุ้ย เป็นการขวางไม่ให้เงินทอง ไหลเข้าบ้านได้

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี

วิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า และความสะอาดคราบความสกปรกที่อยู่ในเครื่องซักผ้า

วิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้าจะเป็นสิ่งที่เราได้มีการใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำความสะอาดของเรา หรือทำให้เรามีความสะอาดมาก แต่ในเครื่องซักผ้าของเราก็ได้มีสิ่งสกปรกอยู่มากที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ เพราะว่าสิ่งสกปรกเหล่านี้จะอยู่ในเครื่องซักผ้าของเราทั้งหมดเลย

ถึงแม้ว่าภายนอกของเครื่องซักผ้าของเราจะดูสะอาดเพียงใด ภายในเครื่องซักผ้าของเราที่ไม่เคยได้มีการทำความสะอาดนั้น ก็จะมีสิ่งที่สกปรกอยู่มากเลย

และยังจะทำให้เสื้อผ้าของเราที่ได้มีการซักไปอาจจะไม่สะอาดด้วย ดังนั้นเราก็ควรที่จะมีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของเราบ้าง เพื่อที่จะทำให้เครื่องซักผ้าของเราสามารถทำการซักผ้าของวเราได้สะอาด โดยที่จะมีวิธีในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของเราดังนี้

  1. การทำความสะอาดโดยใช้เบกกิ้งโซดา

การใช้เบกกิ้งโซดาเราก็จะสามารถทำได้ โดยที่มีการใช้เบกกิ้งโซดา1ถ้วย เทลงในเครื่องซักผ้าของเรา ที่ได้มีกน้ำอยู่เต็มถัง แต่สำหรับเครื่องซักผ้าที่แบบเป็นฝาเปิดจากด้านหน้านั้น เราจะทำการเติมน้ำ และใส่เบกกิ้งโซดาลงบนที่ใส่ผงซักฟอกเหมือนเดิม

ซึ่งในการทำความสะอาดเราจะมีการทำโดยที่จะใช้เวลาในการปั่นที่ทำให้เบกกิ้งโซดาของเราละลายหมด และทำการทิ้งไว้สักหนึ่งคืน และทำการตั้งโปรแกรมปั่นตามปกติ เพื่อที่จะทำให้คราบทั้งหมดของเราออกมา

  1. การที่เราจะทำการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ

น้ำยาฆ่าเชื้อที่เราจะทำการใช้สำหรับการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของเรานั้น เราจะสามารถที่จะหาซื้อได้ทั่วไปเลย ซึ่งจะเป็นวิธีที่จะมีราคาที่สูงมากว่าวิธีที่ใช้เบกกิ้งโซดา แต่ในการที่เราได้น้ำยาฆ่าเชื้อนี้ จะทำให้เครื่องซักผ้าขอวเราไม่มีกลิ่ง คราบ และสามารถที่จะทำการฆ่าเชื้อโรคต่างๆได้เป็นอย่างดีเลย

ซึ่งในการที่เราจะมีการใช้น้ำยาทำความสะอาดน้ำนี้ เราก็จะทำความสะอาดเหมือนกับที่ใช้เบกกิ้งโซดาเลย โดยจะทำการเทน้ำยาฆ่าเชื้อนี้ไปผสมกับน้ำ และทำการปั่นให้ละลาย เพื่อที่น้ำยาของเราจะเข้าไปทำความสะอาดในส่วนต่างๆของเครื่องซักผ้าของเรา และเราก็ควรที่จะมีการรอน้ำยาให้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของเราสักครู่ และจากนั้นก็ทำการกดปุ่มซัก เพื่อที่จะทำความสะอาดเครื่องซักผ้าของเราอีกรอบ

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยรัฐบาล บาทละ 1000

การแก้ไขปัญหาประตูพัง ที่เกิดจากน้ำท่วม 

              ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนสำหรับคนที่มีบ้านอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำหรือใครที่อยู่ในจังหวัดที่มักจะเจอกับปัญหาน้ำท่วมเสมอ การแก้ไขปัญหาประตูพัง ในช่วงหน้าฝนสิ่งที่มักจะเจอกันหลังจากที่เจอกับปัญหาน้ำท่วมแล้วนั่นก็คือการที่ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านนั้นได้รับความเสียหายและสิ่งหนึ่งที่ได้รับความเสียหายนั่นก็คือประตูบ้านนั้นเองวันนี้เราจะมาแนะนำถึงวิธีการแก้ไขปัญหาประตูบ้านที่พังที่เกิดจากน้ำท่วมขังซึ่งเราสามารถแนะนำวิธีการซ่อมแบบง่ายๆให้สามารถนำประตูกลับมาใช้งานได้

         สำหรับประตูที่ทำมาจากไม้นั้น  ถ้าหากโดนน้ำเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นประตูอาจจะยังไม่ผุซึ่งเราสามารถที่จะนำประตูนั้นกลับมาแก้ไขซ่อมแซมเพื่อกลับมาใช้งานได้โดยได้หากมีส่วนไหนที่ได้รับความเสียหายให้เราหาไม้แผ่นเรียบมาปิดตรงบริเวณที่ได้รับความเสียหายหลังจากนั้นก็นำตะปูมาต่อตรงบริเวณดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว การแก้ไขปัญหาประตูพัง เราก็ทาสีประตูใหม่ทั้งหมดเราก็จะได้ประตูเหมือนใหม่ทั้งที่ ยังคงเป็นเพียงแค่ประตูใบเดิมนั้นเองแต่อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าประตูได้รับความเสียหายมาก และไม่สามารถซ่อมแซมได้ คุณก็ควรจะเปลี่ยนประตูบานใหม่ใช้งานจะดีที่สุด 

         ประตูที่ทำมาจากพลาสติก  ปัจจุบันมีประตูที่ทำมาจากพลาสติกถูกออกนำมาวางขายสำหรับประตูที่ทำมาจากพลาสติกนั้นจะสามารถแช่อยู่ในน้ำได้โดยที่ไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างไรก็ตามปกติแล้วเมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมมาประตูพลาสติกเมื่อเจอน้ำท่วมขังก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาสกปรกตามมาได้ดังนั้นหลังจากที่น้ำลดแล้วเราก็เพียงแค่ทำความสะอาดประตูพลาสติกของเรา  แต่ถ้าหากว่าประตูมีการบวมน้ำก็ควรจะพยายามที่จะทำให้ประตูนั้นแห้งมากที่สุดด้วยการขันเอาน๊อตเอาบานพับออกมาตากให้แห้งหลังจากนั้นก็สามารถเอากลับไปใช้งานใหม่ได้เหมือนเดิม

        ประตูที่ทำมาจากเหล็ก  ส่วนใหญ่แล่วเมื่อประตูที่ทำมาจากเหล็กถูกน้ำท่วมขังก็มักจะเกิดสนิมขึ้น   ดังนั้นเมื่อน้ำลดลงแล้วสิ่งที่เราทำเป็นอันดับแรกก็คือไปหาซื้อกระดาษทรายมาเพื่อทำการขัดขอบต่างๆตรงที่เป็นบริเวณเหล็กทั้งหมดเพื่อให้ไม่มีสนิมหรือกำจัดสนิมออกไปจากประตูให้หมดหลังจากนั้นเราก็ทำการทาน้ำยาเคลือบเหล็กป้องกันสนิมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ทาสีประตูของเราใหม่อีกรอบหนึ่งที่นี้ประตูเหล็กของเราก็จะดูเหมือนใหม่และยังคงสามารถใช้งานได้ 

         เห็นไหมเขาว่าการซ่อมแซมประตูที่ได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วมขังนั้นไม่ได้ยากแม้แต่นิดเดียวถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยมีความรู้ด้านการช่างมากนักก็สามารถที่จะทำการซ่อมแซมได้ด้วยตนเองได้เพียงแค่ให้เรามองดูสภาพว่ามันสามารถซ่อมได้หรือไม่ถ้าหากว่าได้รับความเสียหายมากจนไม่สามารถซ่อมแซมได้ก็ควรจะเปลี่ยนใหม่เช่นเดียวกัน 

 

สนับสนุนโดย.  lovebet999

วิธีการดูแลรักษาและการทำความสะอาดกระจกในบ้านของเรา

กระจกจะเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านของเราเกิดการน่าอยู่มากขึ้น และทำให้บ้านของเรามีแสงสว่างเพิ่มมากขึ้นด้วย และจะเป็นสิ่งที่ได้มีการนำมาทำการตกแต่งบ้านกันอย่างหลากหลายเลย ซึ่งกระจกก็ไม่ได้มีเพียงแค่ชนิดเดียวด้วยที่เราจะสามารถนำมาทำการตกแต่งบ้านของเราได้ การทำความสะอาดกระจก และประโยชน์ของการที่เราได้มีการนำกระจกเขามาทำการตกแต่งบ้าน เรายังจะสามารถได้รับประโยชน์มากมายเลย เช่นการที่เราได้มีการติดกระจกนั้นก็จะทำให้บ้านของเราดูกว้างขึ้น มีแสงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในการที่เราจะมีการเลือกใช้กระจกเราก็จะสามารถทำการเลือกชนิดกระจกได้มากมายดังนี้

  1. กระจกใส

จะเป็นกระจกที่ได้มีการนำมาตกแต่งบ้านกันมาก หรือเป็นกระจกที่ได้รับความนิยมในการนำมาใช้ตกแต่งบ้านสูงนั้นเอง

  1. กระจกเงา

จะเป็นกระจกที่สามารถสะท้อนสิ่งต่างๆเป็นอย่างดี นิยมในการใช้เป็นกระจกเพื่อที่จะทำการแต่งตัว

  1. กระจก Stained Glass

จะเป็นกระจกที่ได้มีการติดเพื่อที่จะทำให้บ้าน หรือตึกต่างๆ มีความโดดเด่นและมีสีสันที่เพิ่มมากขึ้นมากๆ ซึ่งในการที่เราจะมีการใช้กระจกนี้ทำการตกแต่งบ้าน เราจะสามารถนำกระจกนี้ไปทำการตกแต่งที่ไหนก็ได้อีกด้วย

การทำความสะอาดกระจก ของเราก็จำเป็นที่จะทำการดูแลรักษาเป็นอย่างดีด้วย เพื่อที่จะทำให้บ้านของเรามีความสวยงาม และทำให้กระจกของเรา ไม่เป็นฝ้า มีคราบสกปรก หรือหมองด้วย โดยที่เราจะมีวิธีที่เราจะทำความสะอาดกระจกของเราให้ไม่มีสิ่งสกปรกดังนี้

  1. การที่เราจะทำความสะอาดกระจกด้วยหนังสือพิมพ์

การทำความสะอาดกระจกด้วยหนังสือพิมพ์นั้นจะเป็นวิธีที่ใช้ทำความสะอาด กระจกของเราได้ง่ายและยังทำให้กระจกของเรามีความสะอาดที่สูงมากมาย ซึ่งเราจะทำการใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกนั้น ฉีดเข้าไปที่กระจกของเราให้ทั่วทั้ง2ด้านของกระจก และทำการใช้หนังสือพิมพ์ที่เราเตรียมไว้เช็ดให้แห้งทั้ง2ด้านเลย

  1. การใช้แอลกอฮอล์

การที่เราจะทำการใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดกระจกนั้น เราจำเป็นที่จะต้องมีการผสมทั้ง2อย่างเข้าด้วยกันก็คือ แอลกอฮอล์ 2ช้อนโต๊ะ และน้ำส้มสายชู 2ช้อนโต๊ะ และหลังจากนั้นนำมาผสมกับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงครึ่ง และใส่ลงในขวดสเปรย์ จากนั้นทำการเขย่าและฉีดลงบนกระจก

  1. การพ่นไอน้ำลงกระจก

จะเป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีเวลาสำหรับการผสมน้ำยาเช็ดกระจกมาใช้เอง แต่จะทำให้กระจกของเรามีความใสได้ง่ายๆเลย โดยการที่เราจะทำการใช้เครื่องพ่นไอน้ำมาพ่นให้ทั่วทั้งกระจกของเราและทำการเช็ดออกด้วยผ้า

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟัง