วิธีการแต่งบ้าน ให้ดูมีความธรรมชาติแบบง่ายๆ

วิธีการแต่งบ้าน ธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นรู้สึกมีความสงบมากๆ และหลายคนๆก็มีความชื่นชอบในธรรมชาติมากๆ ซึ่งในการที่เราได้มีความชื่นชอบธรรมชาติมากๆนั้น เราก็อยากที่จะมีการตกแต่งบ้านของเราให้เหมือนกับว่าบ้านของเรานั้นได้เป็นธรรมชาติเลย

เพราะว่าจะทำให้ธรรมชาติของเราเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา และยังจะทำให้เรารู้สึกสงบ หรือเราจะสามารถรู้สึกดีมากขึ้นได้ง่ายๆจากการที่เราทำการตกแต่งบ้านสไตล์ธรรมชาติเลย ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่าเราจะนำเอาต้นไม้เข้ามาปลูกในบ้านของเราด้วย โดยจะมีวิธีในการที่เราจะตกแต่งบ้านของเราให้ดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นดังนี้

1. การที่เราจะทำการตกแต่งผนังบ้านของเราให้เป็นโทนแบบธรรมชาติ

การที่เราจะทำการตกแต่งบ้านของเราให้ดูเป็นธรรมชาตินั้น วิธีการแต่งบ้าน การเปลี่ยนสีของผนังห้องของเราก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเช่นกัน เพราะว่าในการที่เราทำการเปลี่ยนสีผนังบ้านของเราก็ทำให้ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิมมากเลยด้วย นอกจากนี้การที่เราทำการตกแต่งบ้าน โดยสีเอิร์ธโทนนั้น จะทำให้เรารู้สึกมีความผ่อนคลายมากขึ้นด้วย แต่เราก็ควรที่จะเลี่ยงการใช้สีสดด้วย เพราะว่าจะทำให้ความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปได้ง่ายๆเลย

2. การที่เราจะทำการตกแต่งพื้นของเราด้วยไม้หรือสีที่เรียบๆ

พื้นไม้จะเป็นสิ่งที่ทำให้บ้านของเราดูมีความเป็นธรรมชาติได้ง่ายๆเลย และยังจะทำให้บ้านของเราดูมีความหรูหราอีกด้วย แต่พื้นไม้นั้นจะเป็นสิ่งที่สามารถทำการดูแลรักษาได้ยากมากๆ แต่ในปัจจุบันนั้น ก็จะมีวอลเปเปอร์สำหรับติดพื้น ที่จะทำให้บ้านของเราดูมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังจะมีลายให้เราเลือกหลากหลายลายมากๆด้วย หรือการที่เราจะทำการใช้พื้นที่เป็นสีเรียบก็สามารถที่จะใช้แทนกันได้เช่นกัน

3. การที่เราจะทำการตกแต่งโดยเน้นธรรมชาติ

 

วัสดุในการที่เราจะทำการใช้ในการตกแต่งบ้านนั้น ก็มีอยู่หลากหลายแบบให้เรานั้นได้เลือกในการใช้ตกแต่งบ้านเลย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุจากธรรมชาติต่างๆ เช่น หิน ไม้ ก็จะสามารทำให้บ้านของเราดูมีความเป็นธรรมชาติได้มากขึ้นง่ายๆเลยจากการ ใช้วัสดุที่เกป็นธรรมชาติในการตกแต่งบ้านของเรา หรือเราจะทำการใช้วัสดุที่เป็นการลอกเลียนแบบลวดลายของธรรมชาติในการที่จะเข้ามาทำการตกแต่งได้ด้วย ซึ่งก็จะสามารถทำให้เราได้ความรู้สึกเหมือนธรรมชาติได้เช่นกัน

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

แก้ไขปัญหาการกดชักโครกแล้วเปลืองน้ำ 

         ในทุกๆเดือนเราจะต้องมีค่าใช้จ่ายประจำเดือนถึงแม้ว่าเราจะมีบ้านเป็นของตนเองแล้วแต่ค่าใช้จ่ายที่เราต้องเตรียมเอาไว้นั่นก็คือค่าน้ำและค่าไฟซึ่งแน่นอนว่าโดยปกติแล้วถ้าหากเปรียบเทียบกันกับการใช้งานน้ำและไฟนั้นเรามักจะจ่ายค่าน้ำถูกกว่าจ่ายค่าไฟนั่นเองแต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะใช้น้ำน้อยแล้วแต่บางบ้านก็ยังมีค่าใช้จ่ายค่าน้ำที่ค่อนข้างสูง 

       ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต้องเสียค่าน้ำค่อนข้างแพงนั้นก็มาจากการที่บ้านของเรานั้นมีชักโครกและมีคนอาศัยอยู่ในบ้านค่อนข้างเยอะเพราะการกดชักโครกแต่ละครั้งนั้นคุณจะต้องเสียน้ำประมาณ 200 ลิตรแล้วลองคิดดูว่า ถ้าหากว่าบ้านเรามีกันหลายคนและแต่ละคนเข้าห้องน้ำกันหลายรอบแล้วจะต้องกดชักโครกกี่ครั้งและเราจะต้องเสียน้ำต่อวันนั้นวันละกี่ลิตรซึ่งนี่เองที่ทำให้เรานั้นเสียค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าน้ำค่อนข้างเปลืองดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการกดชักโครกยังไงไม่ให้เราเปลืองค่าน้ำมากจนเกินไปนั่นเอง 

          สำหรับวิธีการนี้เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์อยู่ 2 อย่างนั้นก็คือน้ำเปล่าและแกลลอนหรือขวดน้ำเปล่าซึ่งจะต้องมีฝาปิดหลังจากที่เรามีอุปกรณ์เหล่านี้แล้ววิธีการทำก็คือเราเอาขวดมาใส่น้ำลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าหากเป็นขวดน้ำเราจะใช้อยู่ที่ประมาณ 2 ขวดแต่ถ้าหากเป็นแกลลอนนั้นใช้แค่ 1 แกลลอนเพียงเท่านั้นหลังจากใส่น้ำไปครึ่งนึงเรียบร้อยแล้วก็นำขวดหรือแกลลอนนั้นไปวางไว้ที่แทงของชักโครกที่เป็นแทงค์สำหรับใส่น้ำเอาไว้กดชักโครกนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามสำหรับขั้นตอนการวางนั้นคุณจะวางตรงไหนก็ได้แต่ห้ามให้ขวางตรงบริเวณที่น้ำจะไหลออกไหลเข้านั่นเองหลังจากนั้นเราก็ปิดแทงค์น้ำตามปกติ   แล้วเมื่อคุณมีการทดลองกดน้ำคุณจะเห็นว่าปริมาณน้ำที่ไหลลงมาในโถชักโครกของคุณนั้นจะมีปริมาณลดลงกว่าเดิมนั่นก็เพราะว่าการที่เรานำแกลลอนหรือขวดน้ำไปวางไว้มันจะแทนที่ปริมาณของน้ำทำให้น้ำลดระดับลงมา

       ซึ่งหลักการนี้เป็นหลักการทางวิทยาศาสตร์ง่ายๆที่เราสามารถทำได้และไม่ได้มีความซับซ้อนแม้แต่นิดเดียวอีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าน้ำได้มากอีกด้วยอย่างไรก็ตามกรณีที่เรานำขวดน้ำไปวางไว้หรือนำไปวางไว้ในแทงค์ชักโครกนั้นเราควรจะมีการเปลี่ยนแปลงขวดน้ำหรือแกลลอนประมาณเดือนละครั้งเพื่อความสะอาดของน้ำซึ่งจะได้ไม่มีเชื้อโรคสะสมอยู่ในแทงค์น้ำของชักโครกนั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เว็บหวยออนไลน์อันดับ1

วิธีการทำความสะอาดคราบประจำเดือนบนที่นอน

       สำหรับปัญหาที่สาวๆมักจะเจอกันนั่นก็คือเมื่อถึงวันนั้นของเดือนเวลาที่อาจจะไม่ได้มีการเตรียมพร้อมล่วงหน้าจะส่งผลทำให้ที่นอนของคุณนั้นเปื้อนเลือดจากค่าประจำเดือนของคุณได้ซึ่งหลายคนนั้นเมื่อคราบประจำเดือนเปื้อนบนที่นอนแล้วเราก็มักจะไม่สามารถกำจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกไปได้ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดคราบประจำเดือนง่ายๆใช้เวลาเพียงไม่นานคุณก็สามารถที่จะกำจัดคราบเลือดต่างๆเหล่านี้ออกจากที่นอนของคนได้แล้วมาดูกันว่ามีวิธีการอะไรบ้างและอุปกรณ์ที่ต้องใช้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง

      สำหรับอุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมนั้นก็คือจะมีน้ำแข็งก้อนแล้วก็กระดาษทิชชู่เปียกเท่านั้นซึ่งวิธีการนั้นไม่ได้ยุ่งยากแต่อย่างใดโดยอันดับแรกเราให้ดึงผ้าปูที่นอนที่มีการเปื้อนคราบประจำเดือนออกแล้วนำไปซักให้เรียบร้อยหลังจากนั้นเราก็มาจัดการภาคประจำเดือนที่เปื้อนที่นอนของเราซึ่งมันเป็นภาพเป็นดวงขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็แล้วแต่ให้เราเอาน้ำแข็งก้อนที่เราเตรียมไว้มาถูตรงบริเวณที่เปื้อนประจำเดือนโดยใช้เป็นวิธีการถูวนไปเรื่อยเรื่อย อย่างไรก็ตามถ้าหากคราบฝังแน่นมากคุณอาจจะใช้น้ำสบู่มาป้ายตรงบริเวณคราบประจำเดือนเพิ่มขึ้นได้ด้วย 

       หลังจากนั้นให้เราสังเกตว่าตรงบริเวณที่เรานำน้ำแข็งก้อนมาถูบนนั้นมีความชุ่มจนเปียกที่เรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นเราเพียงแค่นำทิชชู่เปียกที่เราเตรียมเอาไว้แล้วทำการทรัพย์ลงไปซึ่งขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องใช้ระยะเวลานิดนึงโดยซับไปเรื่อยเรื่อยในระหว่างที่ทรัพย์นั้นน้ำแข็งที่เหลืออยู่คุณก็เอาวางไว้ตรงโซนที่เรายังไม่ได้ซักได้เพื่อให้น้ำแข็งนั้นละลายทำให้พื้นที่บริเวณที่นอนนั้นยังคงมีความเปียกชื้นอยู่แล้วนำกระดาษเช็ดชู่เปียกซับตรงบริเวณคราบประจำเดือนไปเรื่อยๆเชื่อหรือไม่ว่าใช้ระยะเวลาไม่ถึง 5 นาทีตรงบริเวณดังกล่าวไปและที่นอนของคุณก็จะกลับมาสะอาดเหมือนเดิมโดยที่คุณอาจจะไม่รู้เลยว่าตรงบริเวณนั้นเคยเปื้อนคราบประจำเดือนของคุณมาก่อน 

         อย่างไรก็ตามการที่เวลาคุณนอนแล้วมีคราบประจำเดือนเปื้อนบนที่นอนนั้นคุณควรจะต้องรีบทำความสะอาดที่นอนของคุณทันทีอย่าปล่อยทิ้งเอาไว้จนประจำเดือนนั้นมีการแห้งฝังแน่นเพราะการทำความสะอาดนั้นจะสามารถทำความสะอาดได้ยากนั่นเองและที่สำคัญควรหาเวลานำที่นอนของคุณออกไปตากพึ่งแดกเพื่อให้ที่นอนของคุณนั้นได้รับรังสีตากแดดเป็นการฆ่าเชื้อโรคและฆ่าไรฝุ่นที่อาจจะเกาะติดตามที่นอนของคุณซึ่งวิธีการนำที่นอนออกไปถึงแบบนั้นคุณสามารถทำได้ 1 หรือ 2 เดือนต่อครั้งก็ได้ 

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

การทำความสะอาดมุ้งลวด 

        ในยุคสังคมปัจจุบันนี้บ้านเรือนส่วนใหญ่นั้นมักจะมีการติดมุ้งลวดเอาไว้  เนื่องจากว่ามันคืออุปกรณ์อย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับในยุคเวลานี้ที่จะใช้ในการป้องกันไม่ให้แมลงรวมถึงสัตว์ต่างๆและยุงเข้าไปรบกวนผู้คนที่อาศัยภายในบ้านได้   อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีแมลงมากมายรวมถึงยุงเป็นพาหนะในการนำโรคมาสู่คนอย่างเช่นเมื่อเราโดนยุงกัดเราก็จะเป็นโรคทั้งไข้เลือดออก

  และยังมีโรคอื่นๆที่มียุงเป็นพาหะนะอีกด้วยนอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นแมลงอื่นๆเช่นแมลงวันหรือแมลงสาบก็เป็นพาหนะของโรคต่างๆได้มากมายเช่นเดียวกันดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าบ้านเรือนในปัจจุบันนั้นไม่สามารถขาดมุ้งลวดเพื่อป้องกันแมลงเหล่านี้ได้นั่นเอง

        อย่างไรก็ตามการที่เราใช้มุ้งลวดนั้นย่อมต้องมีสิ่งสกปรกมาเกาะและเราควรที่จะต้องทำความสะอาดมุ้งลวดเพราะเมื่อมีฝุ่นละอองมาเกาะที่มุ้งลวดมากเกินไปจะทำให้ฝุ่นละอองเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของคนที่อยู่อาศัยภายในบ้านได้เช่นเดียวกันถ้าหากว่าคนที่อยู่อาศัยภายในบ้านได้สูดฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ตามมุ้งลวดนั่นเองดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดว่ามีขั้นตอนแบบไหนบ้าง 

      อย่างแรกเลยการทำความสะอาดนั้นจะมี 2 แบบซึ่งแบบแรกนั้นเราสามารถที่จะถอดมุ้งลวดออกมาล้างทำความสะอาดได้เลยกับอีกแบบนึงนั้นเราทำความสะอาดมุ้งลวดแบบแห้ง

        สำหรับการทำความสะอาดมุ้งลวดแบบแห้งนั้นเราจะใช้วิธีการใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นตรงบริเวณมุ้งลวดหลังจากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นที่เกาะตามมุ้งลวดอีกครั้งหนึ่งเมื่อดูดฝุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดพอหมาดหมาดแล้วเช็ดไปตามเลยมุ้งลวดอีกรอบนึงเพียงแค่นี้ก็เป็นวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดได้แล้วซึ่งวิธีการนี้เราควรจะทำเดือนละ 1 ครั้ง

      สำหรับวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดวิธีที่ 2 นั้นจะเป็นการที่เราถอดมุ้งลวดออกจากกรอบแล้วไปขับล้างทำความสะอาดโดยเราสามารถใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าขัดล้างทำความสะอาดมุ้งลวดของเราโดยให้เราใช้เป็นฟองน้ำในการขัดทำความสะอาดห้ามใช้แปรงอย่างเด็ดขาดเพราะจะทำให้มุ้งลวดได้รับความเสียหายและขาดได้และเมื่อขัดมุ้งลวดจนสะอาดแล้วก็ล้างน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยนำไปผึ่งแดดให้แห้งหลังจากนั้นคุณก็นำมุ้งลวดมาประกอบเข้าสู่ที่เดิมเพียงเท่านี้ก็เป็นวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดเป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นเอง 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    หวยออนไลน์บาทละ 95

ต้นเฟื่องฟ้า ต้นไม้มงคลที่ควร ปลูกเอาไว้ประดับบ้าน

        สำหรับการปลูกต้นเฟื่องฟ้านั้นมีตำราหลากหลายตำราที่แตกต่างกันออกไปบางตำรามองว่าดอกเฟื่องฟ้านั้นคือดอกมงคลเนื่องจากว่ายึดตามชื่อของดอกเฟื่องฟ้าที่ว่าหักใครหรือบ้านไหนมีการปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ในบ้านแล้วจะทำให้ชีวิตของคนภายในบ้านนั้นมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและสว่างไสว

        แต่ในขณะเดียวกันนั้นบางตำรากลับบอกว่าต้นเฟื่องฟ้าหรือว่าดอกเฟื่องฟ้านั้นหากบ้านไหนปลูกเอาไว้แล้วมีลูกสาวจะทำให้ลูกสาวบ้านนั้น เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆแต่เป็นลักษณะของการคบแล้วก็จะถูกทิ้งซึ่งทำให้บ้านไหนที่มีลูกสาวไม่ค่อยกล้าที่จะปลูกต้นเฟื่องฟ้าเอาไว้หน้าบ้านกันสักเท่าไหร่

         สำหรับการปลูกต้นเฟื่องฟ้านั้นเป็นการปลูกด้วยวิธีการตอนกิ่งมาเพาะชำและเมื่อต้องเพิ่มฟ้าถูกปลูกไว้แล้วเราก็สามารถปล่อยโดยที่ไม่ต้องมาดูแลบ่อยมากนักได้ซึ่งต้นเฟื่องฟ้านั้นเป็นต้นไม้ยืนต้นซึ่งมีความสูงแค่ระดับกลางๆเท่านั้นดอกเฟื่องฟ้านั้นมีมากมายหลายสีมากและเราสามารถปลูกต้นเฟื่องฟ้าเพียงต้นเดียวแล้วสามารถเพาะชำเอาสีต่างๆมาไว้ในต้นเดียวกันได้

         ซึ่งต้นเฟื่องฟ้านั้นถ้าเป็นคนในสมัยโบราณก็จะนิยมปลูกกันเป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพราะต้นเฟื่องฟ้านั้นมีความสวยงามและว่ากลิ่นของดอกเฟื่องฟ้านั้นจะไม่มีแต่ด้วยความสวยงามของดอกนั้นก็ทำให้บ้านน่าอยู่ได้เช่นเดียวกัน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนโบราณที่เป็นคนจีนนั้นมักจะนิยมปลูกต้นเฟื่องฟ้ามากและยังมีความเชื่อกันด้วยว่าถ้าในช่วงเทศกาลตรุษจีนต้นเฟื่องฟ้าบ้านไหนออกดอกเต็มต้นแล้วก็แสดงว่าบ้านนั้นกำลังจะมีเรื่องราวดีๆมีสิ่งดีๆเข้ามา

         ยังไงก็ตามบางคนสามารถปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ตรงบริเวณริมรั้วโดยใช้เป็นต้นเฟื่องฟ้าบดบังสายตาของคนทำเป็นรั้วบ้านได้เช่นเดียวกันเพราะต้นเฟื่องฟ้านั้นถ้าหากเราปลูกติดกันก็จะเป็นพุ่มสามารถป้องกันคนเข้ามาภายในบริเวณบ้านเราได้ดังนั้นต้องฟ้าจึงเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่สามารถปลูกสร้างเป็นรั้วบริเวณรอบๆบ้านของเราได้นั่นเอง

        คุณลองนึกดูซิว่าถ้าเกิดบ้านของคนนั้นมีรั้วบ้านด้วยต้นเฟื่องฟ้ารอบทั้งบ้านในช่วงที่ดอกเฟื่องฟ้าแบ่งบานเป็นต้นแล้วเราก็บ้านของคุณนั้นจะมีดอกไม้สีสันสวยงามของดอกเฟื่องฟ้ารอบบ้านเต็มไปหมดทำให้บ้านของคุณน่าอยู่อย่างมากเลยทีเดียวส่วนเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของลูกสาวนั้นเชื่อว่าหากเราอบรมสั่งสอนลูกสาวของเราเป็นอย่างดีความเชื่อเกี่ยวกับการถูกชายหนุ่มครบแล้วทิ้งก็คงจะไม่มีอย่างแน่นอน 

 

 

สนับสนุนโดย    กริลแอร์

ต้นไม้อะไรที่สามารถดูดสารพิษและปลูกไว้ภายในบ้านได้

 

             เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของการปลูกต้นไม้ภายในบ้านซึ่งในสมัยโบราณนั้นมักจะมีการกล่าวที่ว่าไม่ควรที่จะปลูกต้นไม้ไว้ภายในบ้านเพราะในช่วงเวลากลางวันนั้นต้นไม้จะคายออกซิเจนออกมาให้เรานั้นสูตรซึ่งจะสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับเราแต่ในขณะเดียวกันในช่วงเวลากลางคืนนั้นต้นไม้ก็จะกลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังนั้นหากเราปลูกต้นไม้ไว้ภายในบ้านนั้นเราก็จะได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งถือว่าเป็นก๊าซพิษส่งผลอันตรายต่อตัวเรานั่นเอง

 

         แต่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาปลูกต้นไม้ภายในบ้านกันมากขึ้นซึ่งเป็นการส่วนความเชื่อของคนในสมัยโบราณเป็นอย่างมากสาเหตุนั้นก็เพราะว่าได้มีการวิจัยออกมาเรียบร้อยแล้วว่ามีต้นไม้บางชนิดที่เราสามารถนำมาปลูกไว้ภายในบ้านได้และต้นไม้ชนิดนั้นก็ไม่คายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งส่งผลที่เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่อาศัยใกล้ๆโดยการวิเคราะห์นี้ส่งตรงมาจากนาซ่าเลยทีเดียว

    สำหรับต้นไม้ที่เราสามารถปลูกภายในบ้านได้และยังมีคุณสมบัติในช่วยในเรื่องของการดูดสารพิษให้กับเรารวมถึงยังสามารถทำให้เราได้รับออกซิเจนและได้รับอากาศที่บริสุทธิ์เพราะว่ามันสามารถช่วยฟอกอากาศได้ด้วยนั้นมีดังต่อไปนี้

       ต้นเขียวหมื่นปี ,   ต้นยางอินเดีย ,  ต้นลิ้นมังกร,   ต้นพลูด่าง  ,  ต้นเดหลี   ,   ต้นไอวี่ ,  ต้นเสน่ห์จันทร์แดง , ต้นเฟิร์นบอสตัน  , และต้นฟิโลหูช้าง   ซึ่งต้นไม้ต่างๆเหล่านี้จะเห็นได้ว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมากในช่วงเวลานี้และเป็นต้นไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่าคุณสามารถที่จะปลูกนอกบ้านก็ได้หรือสามารถที่จะปลูกภายในบ้านก็ได้นั่นเอง

      ดังนั้นในช่วงที่PM 2.5 ระบาดกวนเมืองอยู่ในตอนนี้หากใครที่สามารถปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆเหล่านี้ได้จะส่งผลทำให้อากาศรอบบ้านของคุณนั้นบริสุทธิ์อย่างมากเลยทีเดียวเพราะว่ามันสามารถดูดสารพิษในอากาศ  มันสามารถที่จะดูดสารพิษฝุ่นพิษละอองภายในอากาศอย่าง PM 2.5 ได้อีกด้วยซึ่งถ้าหากเราปลูกต้นไม้ฟอกอากาศเหล่านี้ภายในบริเวณรอบบ้านของเราก็จะทำให้เวลาที่เราออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์รอบบ้านของเรานั้นจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ และ สดชื่นอย่างมากเลย

         อย่างไรก็ตามการปลูกต้นไม้นั้นจะเหมาะกับคนที่รักต้นไม้เพราะต้องมีการใส่ใจดูแลให้ปุ๋ยพรวนดินและยังต้องมีการนำต้นไม้หากปลูกไว้ภายในบ้านออกมารับแสงแดดเป็นบางครั้งบางคราวอีกด้วยดังนั้นหากใครคิดจะปลูกต้นไม้เอาไว้สำหรับฟอกอากาศไม่ว่าจะเป็นภายในบ้านหรือนอกบ้านนั้นควรจะศึกษาเกี่ยววิธีการปลูกต้นไม้และวิธีการความชอบของต้นไม้ว่าชอบดินประเภทไหนและชอบน้ำแบบไหนเพื่อที่จะได้เวลาปลุกต้นไม้แล้วจะได้เจริญงอกงาม

 

สนับสนุนโดย.    สูตรหวยยี่กี ruay

แนะนำต้นไม้สำหรับปลูกริมรั้ว

           สำหรับใครที่มีบ้านที่อยู่อาศัยและมีบริเวณพื้นที่ส่วนมากแล้วก็มักจะมีการทำรั้วไว้ซึ่งโดยปกติแล้วหากเรามีการทำรั้วด้วยการนำเหล็กมากั้นหรือการนำไม้มากั้นนั้นในช่วงแรกๆอาจจะดูสวยงามแต่ถ้าเราต้องการให้บ้านของเรามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีความงดงามที่สำคัญยังอุดมไปด้วยธรรมชาติของต้นไม้แล้วเราก็แนะนำว่าคุณสามารถที่จะนำต้นไม้มาปลูกอย่างน้อยที่สุดพื้นที่บริเวณโดยรอบบ้านของคนนั้นก็จะสดชื่นไปด้วยต้นไม้และที่สำคัญต้นไม้ที่นำมาปลูกบริเวณริมรั้วนั้นก็สามารถบดบังแสงแดดและบดบังสายตาจากคนข้างนอกและที่สำคัญยังช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกด้วย

       สำหรับในครั้งนี้จะมาแนะนำรายชื่อของต้นไม้ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนำมาปลูกบริเวณริมรั้วและที่สำคัญแข็งแรงทนทานแม้เราจะไม่ค่อยที่จะรดน้ำบ่อยมากนักแต่มันก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ 

        ต้นไทรเกาหลี   เราสามารถกล่าวได้เลยว่าต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้อันดับ 1 ที่มีคนสนใจนำมาปลูกตรงบริเวณริมรั้วกันอย่างมากเลยทีเดียวเพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ช่วงฤดูกาลร้อนและหนาวหรือแม้แต่หน้าฝนต้นไทรเกาหลีนั้นก็จะยังขึ้นสวยงามและบดบังสายตาจากคนข้างนอกได้ยิ่งถ้าเกิดปลูกไว้นานๆเข้าต้นไทรเกาหลีก็จะมีการเกี่ยวพันกันระหว่างกิ่งทำให้หนาตึ๊บและคนภายนอกไม่สามารถมองเห็นด้านในได้เลยทีเดียว  นอกจากนี้ถึงแม้ว่าคุณจะไม่รดน้ำมาเป็นเวลา 2-3 เดือนแต่ว่าต้นไทรเกาหลีนั้นก็จะยังคงความสวยงามอยู่เสมอ

            ต้นโมกต้นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองลงมาจากต้นไทรเกาหลีเลยก็ว่าได้สำหรับการปลูกต้นโมกนั้นอาจจะไม่สามารถบดบังสายตาได้หนาแน่นเท่ากับต้นไทรเกาหลีแต่ว่าจุดเด่นของต้นโมกก็มีอยู่เช่นเดียวกันเพราะถ้าปลูกต้นโมกกันก็ยังพอที่จะทางสายตาได้เว้นแต่ในช่วงเวลาที่ต้นโมกผลัดใบอาจจะทำให้มองเห็นช่องว่างเข้ามาภายในบริเวณบ้านได้แต่ถ้าหากต้นโมกแตกใบหนาก็สามารถบดบังสายตาได้เช่นเดียวกัน

            ส่วนข้อดีของการปลูกต้นโมกนั่นก็คือเมื่อถึงเวลาที่ต้นโมกออกดอกนั้นจะส่งกลิ่นหอมอบอวลไปตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืนและที่สำคัญต้นโมกนั้นนับได้ว่าเป็นต้นไม้มงคลต้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ดังนั้นผู้คนจึงมักสนใจและนิยมนำต้นโมกมาปลูกตรงบริเวณรั้วบ้านกันด้วยความหมายของการปลูกต้นโมกนั้นก็เพื่อป้องกันภัยที่สำคัญหากปลูกต้นโมกนั้นเราแทบไม่จำเป็นต้องดูแลอะไรมากมายอาทิตย์นึงรดน้ำเพียงแค่ครั้งเดียวต้นหม้อข้าวสามารถเจริญเติบโตได้ด้วยตนเองแล้ว

 

สนับสนุนโดย.    เว็บพนันต่างประเทศ ถูกกฎหมาย

รูปแบบการจัดสวนต่างๆที่หน้าบ้าน

การที่เรานั้นอยากที่จะมีสวนต่างๆนั้นอยู่ที่หน้าบ้านของเรา จะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการพักผ่อนที่หน้าบ้านของเรานั้นได้ และในการที่เรานั้นจะมีการจัดสวนนั้น เราจะสามารถที่จะมีการทำการจัดได้หลากหลายพื้นที่ ซึ่งในการที่เราได้มีพื้นที่ว่างนั้น เราก็อาจจะอยากที่จะมีการทำการจัดสวนไว้เป็นที่สำหรับการที่เราจะทำการนั่งเล่นพักผ่อนต่างๆได้

ซึ่งในการที่เรานั้นจะทำการจัดสวนนั้น เราจะสามารถที่จะทำการจัดได้ไม่ว่าเรานั้นจะมีพื้นที่มากน้อยเพียงใด เราก็จะสามารถที่จะมีการทำการจัดสวนขึ้นได้ และในการจัดสวนในแบบต่างๆนั้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้บ้านของเรานั้นได้มีความน่าอยู่ และได้มีบรรยากาศที่ดีนั้นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย และในการที่เราได้มีการเพิ่มชุดโต๊ะเก้าอี้ หรือสระน้ำต่างๆนั้น จะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะทำให้สวนของเรานั้น มีความสวยงามและบรรยากาศเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

  1. การจัดสวนที่มุมบ้าน

จะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการจัดตกแต่งสวนของเรานั้นไว้ที่มุมต่างๆของบ้านของเรา เพื่อให้มุมนั้นสวยงามและสามารถที่จะมองไปแล้วรู้สึกผ่อนคลาย หรือเป็นมุมนั่งเล่นได้อีกด้วย

  1. การปลูกสวนผักกินได้

การทำการทำสวนนั้น ไม่ได้เพียงแค่ว่าเราจะมีการปลูกเฉพาะต้นไม้ที่สวยงาม แต่จะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการปลูกผักไว้ เพื่อที่จะมีการไปทำการกินเป็นอาหารได้อีกด้วย ซึ่งจะสามารถที่จะมีการเพิ่มขึ้นของบรรยากาศในบ้านของเรานั้นได้อีกด้วย

  1. การปลูกต้นไม้ให้เข้ากับผนัง

เป็นการที่เรานั้นได้มีการปลูกต้นไม้ไว้หน้าผนังของบ้านของเรา และได้มีการที่ทำการปลูกต้นไม้สีเดียวกัน ซึ่งจะทำให้มีการที่เข้ากันอย่างมาก เช่นในการที่เรานั้นได้มีการที่ทำการปลูกต้นไม้สีเขียวและมีกำแพงสีเขียว จะเป็นการที่เข้ากันของสีอย่างมาก

  1. การทำสวนแบบตกแต่ง

จะเป็นการที่เราได้มีการแบ่งพื้นที่เล็กๆ มาทำสวนและทำการตกแต่ง ซึ่งจะมีการที่ทำการปูสนามหญ้า และมีการทำการตกแต่งด้วยต้นไม้เล็ก หินต่างๆ ซึ่งจะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการดูแลสวนของเรานั้นได้ง่ายมาก และยังมีการที่สามารถมองเข้าไปแล้วมีความสะอาดสบายตาอย่างมาก

 

สนับสนุนโดย.    สล็อตฝากขั้นต่ำ 20 บาท

การตกแต่งบ้านสไตล์อังกฤษ

การตกแต่งบ้านนั้นสามารถที่จะทำการตกแต่งได้อย่างหลากหลายแบบ ซึ่งในบ้านที่เราจะทำการตกแต่งบ้านส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้น จะเป็นการที่ตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล การตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น เป็นต้น แต่ในการที่เราจะทำการตกแต่งบ้านนั้นจะเป็นการที่ทำการตกแต่งแบบเฉพาะอีกด้วย ซึ่งในแต่ล่ะคนนั้นจะมีความชอบในสไตล์ที่แตกต่างกัน และในการที่เราจะทำการตกแต่งสไตล์อังกฤษนั้น จะเป็นการที่เราจะทำให้บ้านของเรานั้นมีความอบอุ่นอย่างมากอีกด้วย และจะเป็นการที่ได้มีการพักผ่อนได้อย่างดี และในการตกแต่งของสไตล์อังกฤษนี้นั้นจะเป็นการที่เรานั้นได้มีการตกแต่งแบบผู้ดีมากๆอีกด้วย ซึ่งการที่จะทำการตกแต่งนี้จะทำได้โดยวิธีนี้

  1. Classical British Style

เป็นการที่เราจะทำการตกแต่งแบบคลาสสิก ซึ่งจะทำให้เรานั้นได้มีความรู้สึกเหมือนการที่เรานั้นอยู่ในคฤหาสถ์แบบยุโรป ซึ่งจะเป็นการตกแต่งที่หรูหราอย่างมากในการตกแต่งสไตล์นี้ ซึ่งในการที่เราได้มีการตกแต่งสไตล์นี้นั้นบ้านของเรานั้นจะต้องมีความใหญ่อย่างมากในการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ ซึ่งในการที่เราตกแต่งนั้นเราจำเป็นที่จะต้องมี 1.ขอบบัวทรงหลุยส์ 2.โซฟาเซ้ตหนังหรือผ้า 3.โคมไฟระย้า 4.พู่และระบายของม่าน และ5.จุดที่มีความสนใจของห้อง

  1. Victorian Style Taste

เป็นการที่เราจะทำการตกแต่งที่ได้มีความหรูหราแบบคลาสสิก ซึ่งในการที่เราจะมีการตกแต่งบ้านสไตล์นี้นั้น เราจะทำการตกแต่งบ้านให้มีความผ่อนคลายสบายๆมากกว่าการที่เราจะทำการตกแต่งแบบคลาสสิก แต่ในการตกแต่งแบบนี้นั้น เราจะมีการที่ได้เก็บรายละเอียดมากมายในการตกแต่ง ซึ่งจะเป็นการที่ได้ตกแต่งโทนธรรมชาติให้เรานั้นได้มีความผ่อนคลายมากขึ้นอีกด้วย และในการตกแต่งนั้นจะมีการใช้ ไม้ ในการตกแต่งมากที่สุดเพื่อให้มีความคลาสสิกของตัวบ้าน และยังมีการที่ใช้ลวดลายแบบดั้งเดิมอีกด้วย

  1. Vintage Style

เป็นการตกแต่งที่ได้เป็นเอกลักษณ์เป็นพิเศษ ซึ่งได้เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่หลายๆคนนั้นชอบในการตกแต่งมากๆ ซึ่งสามารถทำการพักผ่อนในความอ่อนหวาน และได้มีความรู้สึกว่เหมือนกับเรานั้นอยู่ในชนบท และราคาในการที่เราตกแต่งนั้นจะสามารถที่ตกแต่งอย่างไม่แพงมากอีกด้วย ซึ่งในการตกแต่งนั้นเราจะมีการการที่ใช้สีที่ได้มีความสบายตาในการตกแต่ง และใช้ไม้และของเก่าในการเพิ่มให้ดูมีความหรูหราอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  เว็บพนันบอล ฝากขั้น ต่ำ 100 โบนัส 100

วิธีเลือกสีทาบ้านให้คงทนและสวยงาม

การเลือกสีทาบ้านให้เหมาะสมกลับบ้านแล้วพื้นผิวนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก มอเตอร์ไซค์ความเชื่อถือให้แก่เจ้าของบ้าน จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็น จึงต้องเน้นเป็นพิเศษถึงความสวยงามและตัวของเนื้อสีที่ดี เพื่อความงดงามของตัวบ้านและยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย

สีน้ำมัน สีน้ำมันมีให้เลือกทั้งชนิดเงาและด้าน เป็นสีที่ใช้ทินเนอร์เป็นตัวละลายเมื่อผสมสีไปแล้วสีจะเริ่มแห้งจะทำให้เกิดความหนืดในการทา  จึงจำเป็นต้องผสมทินเนอร์ลงไปเพิ่มเพื่อให้ง่ายต่อการทา ไม้จึงเหมาะสำหรับการทาพื้นผิวไม้และเหล็กเพราะจะเป็นตัวช่วยยืดอายุการใช้งานของวัสดุเหล่านั้น สี ไม่เหมาะกับการทาสีไม้เทียมและผิวคอนกรีต 

สีน้ำอะครีลิค เป็นสีที่ใช้น้ำเป็นส่วนผสมในการทำละลาย ใช้งานง่ายและล้างออกง่ายเหมาะสำหรับใช้ในการทาผิวคอนกรีต เพระเนื้อสีที่ผสมน้ำสามารถแทรกซึมได้ดีในเนื้อคอนกรีต ทำให้อายุการใช้งานยาวนานแต่ว่าไม่เหมาะทาในไม้และโลหะเพราะจะหลุดร่อนได้ง่าย สีน้ำอะคริลิคในท้องตลาดจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือสีทาภายนอกและภายใน

สำหรับชนิดภายนอกต้องมีคุณภาพดี สำหรับในท้องตลาดมีอยู่หลากหลายยี่ห้อซึ่งแข่งขันกันอย่างมากบางชนิดป้ายโฆษณาว่าสามารถอยู่ได้ถึง 10 ปี แต่ไม่ว่ายี่ห้อใดๆอายุการใช้งานก็จะใกล้เคียงกันขึ้นอยู่กับการใช้ให้เหมาะสมต่องานนั้นๆ อย่างในกรณีที่เป็นพื้นผนังเก่าก็จะต้องล้างสีเก่าออกให้หมดแล้วรอให้แห้ง

จากนั้นให้ทาสีกันลาตามด้วยสีรองพื้นและถึงจะทาสีอะคริลิคที่สำหรับทาภายนอกตามลงไป เท่านี้ก็สามารถอยู่ได้คงทนและยาวนานแน่นอน ส่วนสีชนิดทาภายในก็หาเรื่องได้ไม่ยากเพราะอยู่ในบ้านไม่ต้องเจอกับสภาพอากาศแดดร้อนหรือฝนตก แต่ก็ต้องเลือกสีรองพื้นที่มีคุณภาพดี เพราะว่าสีรองพื้นที่ดีจะช่วยปกป้องความชื้นและเชื้อราได้ดี 

สีย้อมไม้  สีย้อมไม้เหมาะกับบ้านที่มีส่วนประกอบเป็นไม้หรือเป็นบ้านไม้ จึงเหมาะกับบ้านที่ต้องการรักษาความสวยงามของไม้และอยู่กับเราไปได้นานๆ 

สีเคลือบไม้ เป็นสีสำหรับเคลือบเนื้อไม้ไม่ให้มันเก่าและเสื่อมสภาพโทรมเร็ว และยังช่วยเพิ่มความเงางามให้กับเนื้อไม้ของเรา เช่น แลคเกอร์หรือยูนิเทน ถ้าเป็นเนื้อไม้ภายในบ้านควรจะเลือกเป็นแลคเกอร์จะให้ความเงางามของเนื้อไม้มากกว่า แต่ถ้าเป็นเนื้อไม้นอกบ้านควรจะเลือกเป็นยูนิเทน 

จะเห็นได้ว่าการเลือกสีทาบ้านนั้นไม่ยากเลย เพียงแต่ว่าท่านต้องหาข้อมูลก่อนที่จะไปเลือกซื้อสีต่างๆนำมาทาบ้าน เพื่อให้เหมาะสมกับงานต่างๆในตัวบ้านของเรา และแน่นอนว่าเมื่อเลือกซื้อสีอย่างถูกต้องกับงานแล้ววิธีทาที่ถูกต้องก็สำคัญเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะทาสีบ้านเองควรจะศึกษาทั้งขั้นตอนการทาและชนิดของสีให้ดีเสียก่อน

 

สนับสนุนโดย .      ซื้อหวยฮานอยออนไลน์